วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Lesson 2



บันทึกอนุทิน

วิชา สัมมนาทางการศึกษาปฐมวัย
(Seminar in Early Childhood Education)
อาจารย์ผู้สอน  อ.จินตนา  สุขสำราญ                           
ประจำวันที่  6 กุมภาพันธ์ 2560
เรียนครั้งที่่ 2   เวลา 11.30-14.30 น.                                   
กลุ่ม  102 วันจันทร์ ห้อง 34-301



Knowledge (ความรู้)

นำเสนอหัวข้อสัมมนา

กลุ่มที่ 1 ดอกไม้ประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้

ประโยชน์
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย
2. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
3. ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน

วัสดุที่นำมาประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้


 ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม




ถุงพลาสติก




กระดาษทิชชู่




หนังสือพิมพ์





กลุ่มที่ 2 Play/Line/Grow Together การเจริญเติบโตไปพร้อมๆกัน
  • เพลง ภาษาอังกฤษ
  • เกม 
  • นิทาน

    ** นำคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เด็กใช้ในชีวิตประจำวันมาสอดแทรกกับการจัดการเรียนการสอน เช่น ดินสอ กาว กรรไกร ไม้บรรทัด เป็นต้น รวมทั้งนำเพลง เกม นิทาน มาสอดแทรกในการเรียนการสอนแบบบูรณาการด้วย**


กลุ่มที่ 3 สร้างโลกสวยด้วยเพลงเด็ก

           นำเพลงเด็กมาสอดแทรกกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เช่น เพลงสัตว์ เพลงผลไม้ และเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เด็กได้เรียนรู้ เพื่อให้การเรียนการสอนไม่น่าเบื่อ





กลุ่มที่ 4 การออกแบบผังกราฟฟิก(GO)ในการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้



ผังกราฟฟิก
          
            เป็นรูปแบบของการแสดงออกทางความคิด ที่สามารถมองเห็นและอธิบายได้อย่างเป็นระบบชัดเจน ซึ่งประกอบไปด้วย ความคิด หรือข้อมูลสำคัญๆ ที่เชื่อมโยงกันกันในรูปแบบต่างๆ ทำให้เห็นโครงสร้างของความรู้ หรือเนื้อหาสาระนั้นๆ และเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้เรียนจัดข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ให้เป็นระบบ ระเบียบ ง่ายต่อการทำความเข้าใจและช่วยให้จดจำได้นาน 

ตัวอย่างผังกราฟฟิก






กลุ่มที่ 5 ของเล่นพื้นบ้าน

ป๋องแป๋ง



รองเท้ากะลา



จั๊กจั๋น




กลุ่มที่ 6 การรีไซเคิลสร้างสื่อเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย






กลุ่มที่ 7 Cupsong




วิดีโอ Cupsong เด็กปฐมวัย





กลุ่มที่ 8 โยคะสำหรับเด็กปฐมวัย

         การให้เด็กเล่นโยคะ ก็ถือได้ว่าเป็นการรักษาสุขภาพอย่างหนึ่ง ช่วยในการบริหารสมอง ฝึกให้เด็กๆได้ใช้สมองในการจินตนาการ มีสมาธิในการเรียน สามารถบริหารจิตใจ ให้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และช่วยผ่อนคลายความเครียด เป็นเด็กอารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน ในด้านร่างกาย ก็ช่วยให้ยืดเส้นยืดสาย กล้ามเนื้อยืดหยุ่น แข็งแรงกระชุ่มกระชวย
         ข้อดีที่สำคัญของการเล่นโยคะก็คือ การฝึกการหายใจ การหายใจที่ถูกต้องจะสวนทางกับการหายใจในชีวิตประจำวันของคนทั่วๆ ไป แต่ก็สามารถที่จะฝึกและแก้ใขได้ เมื่อเด็กๆ หายใจได้อย่างถูกต้องเป็นธรรมชาติแล้ว ก็จะทำให้เป็นเด็กแข็งแรง ไม่เหนื่อยง่าย แต่การจะให้เด็กๆ เล่นโยคะนั้นจะต้องเป็นท่าที่ไม่ยากมาก ไม่ว่าจะเป็นท่าผีเสื้อ ท่าภูเขา ท่ากระต่าย ท่าคีม ท่างู ท่าสุนัข ท่าต้นตาลเอน ท่าต้นไม้ ซึ่งเป็นท่าที่เด็กๆ สามารถทำได้ แต่ควรอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ด้วย
















กลุ่มที่ 9 มารยาทไทย

           มารยาทไทย คือ กิริยา วาจาต่างๆ เช่น การยืน การเดิน การนั่ง การนอน การรับของส่งของ การทำความเคารพ การแสดงกิริยาอาการ การรับประทานอาหาร การให้และรับบริการ การทักทาย การสนทนา การใช้คำพูด การฟัง การใช้เครื่องมือสื่อสาร รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติในพิธีการต่างๆที่สุภาพเรียบร้อยที่บุคคลพึงปฏิบัติในสังคมโดยมีระเบียบแบบแผนอันเหมาะสมตามกาลเทศะ และถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของคนไทย

การไหว้ระดับที่  1
         การไหว้พระ ได้แก่ การไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมทั้งปูชนียวัตถุ ปูชนียสถาน ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ในกรณีที่ไม่สามารถกราบแบบ     เบญจางคประดิษฐ์ได้ โดยประนมมือแล้วยกขึ้น   พร้อมกับค้อมศีรษะลงให้หัวแม่มือจรดระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วแนบส่วนบนของหน้าผาก



การไหว้ระดับที่   2
            
        การไหว้ผู้มีพระคุณและผู้อาวุโส ได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ครู 
อาจารย์ และผู้ที่เราเคารพนับถือ โดยประนมมือแล้วยกขึ้นพร้อมกับค้อมศีรษะลงให้หัวแม่มือจรดปลายจมูก ปลายนิ้วแนบระหว่างคิ้ว



การไหว้ระดับที่ 3

         การไหว้บุคคลทั่วๆไป ได้แก่ ผู้ที่เคารพนับถือหรือผู้มีอาวุโสสูงกว่าเล็กน้อย โดยประนมมือแล้วยกขึ้นพร้อมกับค้อมศีรษะลงให้หัวแม่มือจรดปลายคาง ปลายนิ้วแนบปลายจมูก




กลุ่มที่ 10 การละเล่นอาเซียนพื้นบ้านของ 10 ประเทศอาเซียน

ประเทศไทย "รีรีข้าวสาร"



ประเทศกัมพูชา "ขโมยเจ้าสาว (Pongrot Koun Kramom)"




ประเทศบรูไน "ลากกาบมะพร้าว (Tarik Upeh)"



ประเทศฟิลิปปินส์ "เสือข้ามห้วย (Luksong – Tink)"



ประเทศมาเลเซีย "ปืนใบปาล์ม (She Ye Zi)"



ประเทศสิงคโปร์ "ปิดตาทาย (Kuching Buta)"



ประเทศอินโดนีเชีย " ยิงลูกแก้ว (Kelereng)"




ประเทศเวียดนาม "แมวไล่หนู (Meo Duoi Chout)"





กลุ่มที่ 11 อาหารพัมนาสมองเด็กปฐมวัย





กลุ่ม 12 การสอนดนตรีแบบ orff Schulwerk




                 วิธีการพื้นฐานของออร์ฟคือ การให้ผู้เรียนมีโอกาสสำรวจและทดลองสิ่งต่างๆ ทางดนตรีโดยใช้การพูด การร้อง และการเคลื่อนไหวเป็นหลักการสำคัญ (ณรุทธ์ สุทธจิตต์, 2541) ซึ่งประกอบไปด้วยการเรียนรู้จากการสำรวจสิ่งต่างๆในแต่ละขั้นตอนของการสอนนั้นจะเริ่มโดยเป็นไปในลักษณะของการเลียนแบบ ไปจนถึงการสร้างสรรค์ขึ้นเองจากส่วนย่อยไปสู่ส่วนใหญ่ จากสิ่งง่ายๆไปสู่สิ่งที่สลับซับซ้อน จากแต่ละบุคคลไปสู่การเล่นดนตรีเป็นคณะ บทเพลงที่ใช้เป็นบันไดเสียง 5 เสียง คือ แพนตาโทนิค (Pentatonic Scale) การซ้ำทวนของจังหวะ (Rhythmic Ostinato) และสัญญาณมือ (Handsigns) เป็นสื่อการสอนของวิธีนี้ นอกเหนือไป จากเครื่องดนตรีเฉพาะที่เรียกว่า เครื่องดนตรีออร์ฟ (Orff Instruments) ประกอบไปด้วยระนาดพิเศษที่สามารถถอดลูกระนาดได้ มีทั้งที่ทำด้วยไม้และโลหะ มีขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ครอบคลุมช่วงเสียงตั้งแต่เสียง โซปราโนลงไปจนถึงเสียงเบส


Skill (ทักษะ)

- การคิดวิเคราะห์
- ทักษะการนำเสนอ
- การตอบคำถาม


Application  (การประยุกต์ใช้)
               
    นำความรู้และวิธีการที่ได้จากอาจารย์มาใช้ในการจัดการศึกษา และนำหัวข้อต่างๆที่เพื่อนำเสนอไปเป็นแนวทางในการจัดอบรมสัมมนา เพื่อให้ได้หัวข้อที่ดีที่สุด


Technical Education (เทคนิคการสอน)

- เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
- ใช้คำถามในการกระตุ้นผู้เรียน
- เทคนิคการใช้คำถาม


Evaluation (การประเมิน)  

Self: เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจเรียนและจดในสิ่งอาจารย์สอน
Friend : ตั้งใจเรียน ช่วยกันเสนอหัวข้อ
Teacher : เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย เวลาสอนก็จะสอนแบบละเอียด คอยกระตุ้นให้นักศึกษากระตือรือล้นในการเรียน และใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวล สูง ต่ำ ตามจังหวะของการสอน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น